วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

บทความ"การสร้างบุญและการทำความดี"

๙ คำพ่อสอน
การสร้างบุญและการทำความดี
…………………………………
มนุษย์ทุกคนต่างก็ล้วนแล้วแต่มีความต้องการที่ต่างกัน แต่โดยส่วนมากแล้วนั้นมนุษย์นั้นต่างก็มีจิตใจที่จะแสวงหาแต่ความดี เพื่อยกระดับจิตใจของตนเองให้เป็นจิตใจที่มีกุศล บริสุทธิ์และผ่องใส แต่การที่จะได้มาซึ่งความดีเหล่านั้นเราจำเป็นต้องสร้างบุญสร้างกุศล เพื่อให้ถึงพร้อมในการเป็นคนดีได้อย่างมีความสุข
การสร้างบุญสร้างกุศลนั้นทำได้หลายทาง ตัวอย่างเช่น การตักบาตรในตอนเช้า การทำบุญที่วัด การฟังเทศน์ฟังธรรม การเวียนเทียน การนั่งสมาธิ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นการทำบุญซึ่งทำได้ง่าย ยิ่งเราทำมากเท่าไรเราก็ยิ่งได้รับผลบุญมากเท่านั้น สิ่งสำคัญอยู่ที่เรา เมื่อทำบุญมากจนเกิดความเคยชินเป็นนิสัย ก็เป็นสิ่งที่ง่ายมากยิ่งทำก็ยิ่งเบิกบานใจ หรือแค่เราตั้งใจทำอะไรสักอย่างหนึ่งที่สามารถทำให้ตนเองมีความสุขและคนรอบข้างมีความสุข เท่านี้ก็เป็นการสร้างบุญแล้ว เมื่อเราตั้งใจและจดจ่อกับสิ่งในสิ่งหนึ่งในช่วงเวลาหนึ่งนั้นจะทำให้เราเกิดสมาธิซึ่งสมาธิที่เกิดขึ้นนั้น จะเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราประสบผลสำเร็จในทุกอย่างที่เราทำ งานสำเร็จได้ด้วยความตั้งใจ ความประณีตและความมีสมาธิ งานจึงออกมาสวยงาม น่าชื่นชม มองแล้วก็เกิดความชื่นใจ ปิติยินดี คนอื่นมองก็ชื่นชมในงานของเรา
นอกจากการทำบุญโดยใช้กำลังกายแล้ว การทำบุญโดยใช้กำลังความคิดและจิตใจก็ถือว่าได้บุญไม่น้อย เพราะเมื่อเราเกิดความคิดในทางที่ดี คิดในแง่บวก ผลที่เกิดกับตัวเราคือ จิตใจแจ่มใส ไม่คิดฟุ้งซ่าน มองอะไรก็สดใส เมื่อเราเบิกบานใจ คนรอบข้างก็พลอยมีความสุขไปด้วย นอกจากคิดดีคิดในสิ่งที่เป็นกุศลแล้ว การพูดดีก็เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างบุญด้วย เพราะถ้าเราพูดจาดี ไพเราะน่าฟัง คนที่ฟังก็สบายหู ได้รับความสุขจากสิ่งที่เราพูดออกไป แต่ถ้าเราพูดไม่ดี พูดส่อเสียด ดูถูกเหยียดหยามผู้อื่นหรือพูดในสิ่งที่เป็นอกุศล ตัวเราก็พลอยเสื่อมเสียมไปด้วย คนอื่นก็จะมองเราไม่ดี หรืออาจจะว่าร้ายเราได้ เพราะฉะนั้นเราควรพูดในสิ่งที่ดีและเป็นประโยชน์ ไม่พูดในสิ่งที่ทำให้ตัวเราเองและผู้อื่นเดือดร้อน อีกทั้งเมื่อเราพูดดีแล้วทำให้ผู้อื่นมีความสุข นั่นก็เป็นการสร้างบุญได้อีกประการหนึ่ง
ในส่วนของการทำความดีนั้น สิ่งสำคัญที่สุดอยู่ที่ตัวเราเอง เราทำเราก็ได้ แต่การทำความดีแล้วจะเกิดผลทันทีคงไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้เวลาและความอดทนสูง เพราะฉะนั้นเมื่อเราอดทนและทำแต่ความดี มันก็เป็นการฝึกฝนตัวเราให้เกิดความเข้มแข็งทางด้านจิตใจได้อีกทางหนึ่ง เมื่อจิตใจเราเข้มแข็งเวลาไปเจอสิ่งที่ไม่ดี สิ่งที่เป็นอบายมุข เราก็สามารถอดทนและไม่ยุ่งเกี่ยวกับมันได้ เพราะในจิตใจของเรามุ่งแสวงหาแต่ความดี ผลที่เกิดขึ้นโดยตรงกับตัวเราคือ ตัวเราเองมีความสุข เราสามารถตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาทได้เพราะจิตใจเราเข้มแข็ง เรามีสติและความรอบคอบอยู่เสมอ อีกทั้งเรายังจะไม่ทำอะไรให้เป็นการเสื่อมเสียชื่อเสียง ทั้งตัวเราเองและครอบครัวอีกด้วย และตัวเราก็ยังสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมในอย่างมีความสุข คนรอบข้างต่างก็เคารพนับถือ เพราะเรานั้นกระทำแต่สิ่งที่ดีงาม สิ่งที่เป็นกุศล และสิ่งที่สุจริต และถ้าเราทุกคนล้วนแล้วแต่ทำความดีนั้น ประเทศชาติก็จะเจริญรุ่งเรืองและพัฒนาต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด





…………………………………………………………………







นางสาวปัญจพร เซ็นพานิช
คณะศึกษาศาสตร์
สาขาการสอนภาษาอังกฤษ
๕๒๐๔๐๒๔๖

วันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2552